"Hate live on fear and if you run away hate win"

"I realize why everyone hate me  because everyone don't like smart ass"
"When I go to the darkness, deeply dark I need someone to hold the lantern for me"
"Try to leave this world when it better than you found it"
"Everything is good but not everything is better"
"คุณค่าของการไม่รู้อะไรเลย คือการได้รู้อะไรบางสิ่ง"

The value of nothing is when nothing come to something
"มีคนถามว่าทำอะไรหลายๆ อย่างไปทำไม ตายไปก็เอาไปไม่ได้
แต่สำหรับผม การที่ทำอะไรหลายๆ อย่างไม่ใช่เพื่อจะเอาไปด้วย แต่เมื่อตายแล้วจะมีอะไรเหลือไว้บ้างต่างหาก"
"เคยได้ยินคำว่า มนุษย์ชอบไขว่คว้าสิ่งที่เกินเอื้มไหม จริงๆแล้วมนุษย์ชอบไขว่คว้าความกล้าหาญต่างหาก"
"ผมไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะสอนไม่ดีหรอกนะ แต่ผมกลัวว่านักเรียนจะเชื่อทุกเรื่องที่ผมบอกไปต่างหาก"
"การำสิ่งใหม่ๆ มักเกิดจากคนกลุ่มเล็ก ทำไมหน่ะหรือ ก็เพราะมันจะยากมากที่จะเกิดสิ่งใหม่ๆ เมื่อคนจำนวนมากมาอยู่ด้วยกัน และยากยิ่งกว่าถ้าคุณอยู่คนเดียว"
"คนรุ่นก่อนๆ คิดว่าอนาคตจะดีขึ้น พวกเขาไม่ได้คิดผิดในเรื่องนั้น แต่พวกเขาคิดผิดที่ว่ามันจะเกิดขึ้นเอง โดยอัตโนมัติ"
"หากคุณเลือกที่จะเลียรแบบผลงานของคนอื่น นั่นหมายความว่าคุณไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย"
"อนาคตคือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่ทำให้อนาคตพิเศษและสำคัญคือ มันจะแตกต่างจากปัจจุบัน"
"ลดการใช้ “I think” แต่ใช้ “Let us show you …” เชื่อในเรื่องการทำ prototype แล้วก็ทำซ้ำ จนได้ผลิตภัณฑ์ที่เยี่ยมยอด มากกว่าการออกความเห็นจากประสบการณ์เก่าๆ"

"กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดคือการทำซ้ำให้รวดเร็ว พลาดให้ไว แก้ให้เร็ว"

"คุณเรียนรู้ได้ดีที่สุด เมื่อคุณเรียนน้อยอย่างที่สุด"

"ผมไม่ใช่แค่อ่านหนังสือ แต่ผมกำลังเรียนรู้วิธีการทำงานของโลกนี้"

"ตอนแรกเขาจะละเลยคุณ
จากนั้นก็หัวเราะเยาะคุณ
จากนั้นพวกเขาก็สู้กับคุณ
จากนั้นคุณก็เป็นผู้ชนะ"



"คุณเป็นค่าเฉลี่ยของ 5 คนที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด"

"ผมชอบที่จะทำอะไรใหม่ๆ ยากๆที่ผมคิดว่าผมไม่น่าจะทำมันได้ เพราะมันทำให้ผมต้องถามคนอื่นๆ และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ"


"กฎของความก้าวหน้ามีอยู่สองข้อ คือ พัฒนาต่อ และคิดว่าตัวเองดีพออยู่เสมอ"

"Heart just a cardiac muscle nothing more"

คำปลอบใจสำหรับพวกเด็กวิทย์อกหัก
"ถ้าคุณอยากมีพลังมากๆ คุณก็ต้องหาที่ปล่อยมันออกมาเยอะๆ"

ผมได้ไอเดียนี้มาตอนออกกำลังกาย แต่มันประยุกต์ใช้ได้กับการบริหารองกรค์ด้วย คือคุณต้องมีที่ให้ทีมงานได้แสดงความสามารถของเขาออกมา ไม่ว่าจะเกี่ยวกับงานหรือไม่ก็ตาม เพราะผมเชื่อว่าเมื่อปล่อยพลังออกมามากก็จะสร้างขึ้นมาใหม่มากเช่นกัน แต่ถ้าไม่มีที่ให้ปล่อยพลังนี้สิ ผมว่ามันจะหมดไปสักวัน
แรงบันดาลใจคือสิ่งที่ทำให้คุณเริ่มต้น แต่นิสัยต่างหากคือสิ่งที่จะทำให้เราทำมันต่อไป
“Motivation is what gets you started. Habit is what keeps you going.”
- Jim Ryun -
"ถ้าคุณมีวิสัยทัศน์สำหรับ 1 ปี คุณต้องปลูกข้าว ถ้าคุณมีวิสัยทัศน์สำหรับ 10 ปี คุณต้องปลูกต้นไม้ แต่ถ้าคุณมีวิสัยทัศน์สำหรับทั้งชีวิต คุณต้อง(ปลูก)สร้างคน" 
- สุษาษิต จีน

"If your vision is for a year, plant wheat. If your vision is for ten years, plant trees. If your vision is for a lifetime, plant people." 
- Chinese proverb
"Good is the enemy of Great"
“Stay weird Stay different”
ไม่เหมือนใครนั่นหล่ะดีแล้ว


“Now, if you wish you could have been normal... I can promise you I do not. The world is an infinitely better place precisely because you weren’t” 

“ถึงแม้ว่าเธอจะอยากเป็นเหมือนคนปกติมากแค่ไหน แต่ฉันอยากจะบอกกับเธอว่า การที่เธอไม่เหมือนใครนั่นแหล่ะ คือสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้เป็นสถานที่ที่น่าอยู่มากขึ้น” 


"สิ่งที่เราไม่รู้มันไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่สิ่งที่คิดว่ารู้แต่กลับรู้ไม่จริงนั่นหล่ะคือปัญหา"

เพราะฉะนั้นคงดีกว่าที่เราจะเริ่มต้นจากสิ่งที่เรารรู้แล้ว และทำให้รู้จริงๆ
"ข้อแก้ตัวที่สมบูรณ์แบบ คิอข้อแก้ตัวที่ฟังดูสมเหตุสมผลดี แต่ไม่ทำให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้า"
"ถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องไม่แข่งกับคนที่อยู่ข้างหน้าคุณ และไม่แข่งกับคนที่คุณพึ่งจะแซงมา แต่ต้องแข่งกับคนที่อยู่หัวแถว"
"ถ้าอยากไปให้ไกลกว่าเดิม ก็ต้องลืมไปซะว่าเคยทำได้แค่ไหน"
"โลกนี้เปลี่ยนได้เพราะมีคนที่ไม่พอใจอะไรง่ายๆ"

อย่าตกหลุมพลางของความสำเร็จ ความเสี่ยง ความเชื่อ และความกล้าทำนสิ่งใหม่ต่างหากที่น่าหลงไหล

Million Dollar Arm : Phrases

- ทำไม่ได้หรอ งั้นก็ลองทำให้ได้สิ เพราะแม้จะทำไม่ได้ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร แต่ถ้าได้นายจะเป็นคนแรกของโลกที่ทำสำเร็จ

- แค่เริ่มลงมือทำ เดี๋ยววิธีการที่เหลือก็ตามมาเอง

- ทำให้สนุก อย่าไปเครียดกับมัน แค่เราทำแล้วสนุก เล่นให้เต็มที่ ผลจะออกมายังไงก็ช่างมันสิ

-ไม่มีคำว่าผิดหวัง ถ้าได้เริ่มต้นลงมือทำแล้ว


"ห้าบวกห้าเท่ากับเท่าไหร่?...
แล้วเลขสองตัวที่บวกกันแล้วได้สิบมีอะไรบ้าง"

นอกจากจะจะถามว่าเราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร ให้ลองถามตัวเองอีกว่า มีอย่างอื่นอีกบ้างมั้ยที่ทำให้งานนั้นเสร็จได้เหมือนกัน
"ถ้ามีใครขอให้เราทำอะไรบางอย่าง อย่าพึ่งรีบลงมือทำ แต่ให้ถามเขากลับว่าทำไมต้องทำ"

เพราะคำตอบที่ได้ จะช่วยให้เรามองกรอบของปัญหาต่างออกไป จากที่เข้าใจตอนแรก และมันมีทางออกรูปแบบอื่นมากกว่าที่คิด

เช่น ถ้ามีคนบอกให้เราสร้างสะพาน แทนที่จะรีบหาแผนงาน แล้วรีบสร้าง ให้ถามเขากลับว่าสร้างสะพานไปทำไม ถ้าเขาตอบว่าเพื่อให้ข้ามไปอีกฝั่ง นั่นกรอบของปัญหาก็เปลี่ยนไป เพราะการข้ามไปอีกฝั่งนอกจากสร้างสะพานแล้วยังมีอีกหลายทางเลือก เช่น สร้างเรือ เป็นต้น
"ไม่มีอะไรไร้ค่า ถ้าความคิดสร้างสรรค์ของเรามากพอ"
"อย่าให้สสารที่เรียกว่าเงิน อยู่เหนือสสารอื่นๆ"
"มีแต่คนที่เสี่ยงจะไปให้ไกลเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าพวกเขาสามารถไปได้ไกลแค่ไหน"
"ข้อแก้ตัวดีๆ ไม่ทำให้อะไรสำเร็จ สิ่งที่จะทำให้สำเร็จคือเลิกแก้ตัว และลงมือทำ ลงมือแก้ปัญหา"
"คนส่วนมากพอใจ และชินกับสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ แต่คนที่มีความคิดสร้างสรรค์รู้ดีว่ามันมีช่องให้ปรับปรุงอยู่เสมอ "
เมื่อเจอปัญหา หรือ อะไรก็ตามที่ผลลัพท์ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้ ให้บอกตัวเองเถอะว่า
"เราเป็นคนที่เลือกเดินทางมาจุดๆนี้เอง แล้วมันจะเป็นอย่างไรถ้าเราจะเลือกพาตัวเองไปต่อ มาดูกันสิว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน จะไปให้ถึงฝันได้มั้ย"
"คำถามไม่ใช่เป็นไป ได้หรือไม่ได้ แต่คำถามคือ ทำอย่างไรถึงจะเป็นไปได้ต่างหาก"
"เมื่อคนธรรมดาตัดสินใจทำอะไรที่ไม่ธรรมดา พวกเขาจะสร้างการเปลี่ยนแปลง(ปฏิรูป) ให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนรอบข้าง"
"หนทางสู่ความสบายในแสนลำบาก ส่วนหนทางสู่ความลำบากนั้นแสนสบาย"

ยอมเหนื่อยและลำบากก่อนแล้วค่อยสบายที่หลัง
ดีกว่า สบายก่อนแล้วจะลำบากที่หลัง
"ไม่ทันคน" เมื่อมีใครบอกคุณเช่นนั้น ก็จงบอกเขาไปเถิดว่า เป็นเช่นนั้น แต่การที่เราไม่ทันคนก็ด้วยเหตุผลที่ว่าเราไม่ได้กำลังเดินตามใคร
"แนวคิดเดิมๆบางอย่าง อาจทรงพลังจนปิดกั้นความก้าวหน้าได้ เพราะผู้คนมักยึดติดอยู่กับมันจนมองไม่เห็นทางเลือกอื่นๆ"
"อย่าพยายามวางแผนอนาคตอย่างเคร่งครัดเกินไป แต่ควรวางแผนให้ได้พบโอกาสดีๆอยู่ตลอดเวลา"
"เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนบอกว่าความคิดของคุณเป็นเรื่องบ้าบอ นั้นแสดงว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน"
"จงกล้าที่จะกระโดดออกจากเครื่องบินที่สมบูรณ์พร้อม ถ้ารู้ว่ามันกำลังบินไปผิดทาง"
"เมื่อความเครียดแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้น เมื่อนั้นปัญหาก็จะกลายเป็นโอกาส"
"เมื่อหว่านความคิด ก็จะเกิดการกระทำ เมื่อหว่านการกระทำก็จะเกิดเป็นนิสัย เมื่อเพาะจนเป็นนิสัยแล้วก็จะเป็นเช่นนั้นนตลอดไป"

เพราะ ฉะนั่นความคิดนั้นสำคัญ จงมีจิตใจที่แน่วแน่ และยืนหยัดอยู่จนกว่างานจะสำเร็จ ถ้าขี้เกียจหนึ่งครั้ง ก็ง่ายที่จะมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม
"การทำกิจกรรมมากมาย ไม่เท่าการทำให้เกิดผล และการเกิดผลหนึ่งครั้งไม่เท่าการเกิดผลตลอดเวลา"

แม้ ว่าคุณจะทำกิจกรรมอะไรมากมายแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย มันจะมีประโยชน์อะไร และต่อให้คุณคิดจะทำอะไรมากมาย มีแผนการในหัวเต็มไปหมด แต่ถ้าไม่ลงมือทำมันให้เกิดผล มันก็เป็นแค่แผนการที่ไร้ค่าเท่านั้นเอง
"การทำกิจกรรมมากมาย ไม่เท่าการทำให้เกิดผล และการเกิดผลหนึ่งครั้งไม่เท่าการเกิดผลตลอดเวลา"

แม้ว่าคุณจะทำกิจกรรมอะไรมากมายแค่ไหน แต่ถ้ามันไม่เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมาย มันจะมีประโยชน์อะไร และต่อให้คุณคิดจะทำอะไรมากมาย มีแผนการในหัวเต็มไปหมด แต่ถ้าไม่ลงมือทำมันให้เกิดผล มันก็เป็นแค่แผนการที่ไร้ค่าเท่านั้นเอง
"เมื่อหว่านความคิด ก็จะเกิดการกระทำ เมื่อหว่านการกระทำก็จะเกิดเป็นนิสัย เมื่อเพาะจนเป็นนิสัยแล้วก็จะเป็นเช่นนั้นนตลอดไป"

เพราะฉะนั่นความคิดนั้นสำคัญ จงมีจิตใจที่แน่วแน่ และยืนหยัดอยู่จนกว่างานจะสำเร็จ ถ้าขี้เกียจหนึ่งครั้ง ก็ง่ายที่จะมีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม
"วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือลงมือทำ และไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว"
"นายมาที่นี้เพื่อเตรียมตัวก้าวสู่เป้าหมาย (ที่นี้หมายถึงที่ ณ เวลานั้น)"
"คนบางคนก็ประเมินสมองของตัวเองต่ำเกินไป หรือไม่เขาก็ประเมินสมองของคนอื่นสูงเกินไป"

มันเลยเป็นเหตุผลให้คนที่มีพื้นฐานเหมือนกัน แต่เมื่อเจอปัหาอย่างเดียวกันแล้ว บางคนบอกว่าทำไม่ได้ ในขณะที่อีกคนบอกว่าผมทำได้แน่นอน มันอยู่ที่ทัศนคติจริงๆ สมองมันมีหน้าที่สนับสนุนจิตใจ จิตวิญญาณ มันไม่ได้มีหน้าที่สั่งกาารอะไรเลยจริงๆ คือ ถ้าเรา คิดว่าเราทำได้ เราเชื่อแบบนั้น สมองจะหาเหตุผล หา หนทางที่จะทำให้มันสำเจ้จจนได้ แต่เมื่อใดที่เราบอกว่า ไม่ ผมทำไม่ได้ เมื่อนั้น สมองก็จะหาเหตุผลมาแก้ตัวว่าทำไมคุณถึงทำไม่ได้ และถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ คุณจะชินชากับคำแก้ตัวของตัวเอง และไม่พัฒนาไปไหนเลย
"คุณจะใช้สมองของคุณสร้างประวัติศาสตร์ หรือใช้มันเก็บประวัติศาสตร์ที่คนอื่นสร้างไว้"
"สมองมีไว้เพื่อหาเหตุผลว่าทำยังไงถึงจะทำได้ ไม่ใช่มีไว้หาเหตุผลว่าทำไมถึงทำไม่ได้"
"คุณจะอยากมีไอคิวที่สูงไปทำไม ถ้าคุณมีแล้วใช้มันอย่างสร้างสรรค์ไม่ได้"
"จงเป็นคนที่ชอบฝัน/คิด และพัฒนาความฝัน/คิด นั้นให้เป็นจริงให้ได้ในทางปฏิบัติ"
"จงอย่าลืมว่านาฬิกาที่กำลังเดินอยู่อย่างช้าๆ เบื้องล่างยังมีฟันเฟืองที่กำลังหมุนอยู่เช่นกัน"
"จงเอาค้อนทุบหัวตัวเองไปเถอะ เพราะยังไงมันก็ต้องหยุดทุบอยู่ดี"
ถ้าจะทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ มันอาจเหนื่อย ลำบาก ปวดหัว แต่เชื่อเถอะ เมื่อทุกอย่างผ่านไป มันก็คือเวลาที่คุณสบายเป็นเวลาที่ได้พักผ่อน เวลาที่คุณอยากผักผ่อนที่สุดในชีวิตเลย
"นกที่ตื่นเช้า ก็หาอาหารกินได้ง่าย คนที่ตัดสินใจทำก่อนจะมีโอกาสมากกว่า คนที่ลังเลก็มีแต่เสียกับเสีย"
"อย่าปล่อยให้สิ่งที่สามารถทำได้ในวันนี้ไว้จนถึงวันพรุ่งนี้"

เบนจามิน แฟรงคลิน

"อย่าให้ความไม่เชื่อของคนอื่น มาทำลายความเชื่อของเรา"
"ขุนศึกมีกระบี่อยู่ที่ใจ ต่อให้ถือไม้ไผ่ก็ยังไร้เทียมทาน"

ถ้าเรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องที่เราสนใจ เข้าใจเรื่องราวทุกอย่างของสิ่งนั้น รู้ทุกแง่ทุกมุมของมัน เมื่อตกอยู่ในสถานะการที่ยากลำบาก ถึงแม้ให้เราไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆก็ตาม เราก็สามารถที่จะเอาความสามารถที่มีอยู่ออกมากใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
"คุณอาจไม่ได้รับในสิ่งที่คุณต้องการ แต่ถ้าคุณพยายาม บางครั้ง...คุณอาจจะพบสิ่งที่คุณสมควรจะได้รับ"
"เราอาจไม่สามารถทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ แต่ขอให้เราทำให้เต็มที่ในสิ่งที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้ก่อน"
"การตัดสินใจแต่ละครั้ง จะมีผลกระทบตามมามากมายเสมอ"
"การลอกเลียนแบบกับการเรียนรู้การทำงานมันก็ต่างกันอยู่นะ"


การที่เรานำงานของคนอื่นมาศึกษาไม่ใช่ว่าเราจะต้องทำเลียนแบบงานของเขาเสมอไป แต่เป็นการศึกษาเพื่อให้รู้ว่างานชิ้นนั้น มีลักษณะการทำงานอย่างไร มีจุดเด่นและจุดด้อยตรงไหนบ้าง เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับงานของเรา
"การจำทุกอย่างในชีวิตได้มันไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอก แต่การสามารถจำในสิ่งที่ต้องการจะจำได้ทั้งหมดต่างหากเป็นสิ่งที่ดีกว่า"
***"เราจะไม่ขออะไรจากพระเจ้า นอกจากให้ท่านมองดูเรา และแนะนำสิ่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับเรา"
"การพัฒนาอย่างแท้จริงของประเทศ ไม่ใช่การขยายอาณาเขต แต่เป็นการสร้างการเชื่อมต่อให้มากที่สุดต่างหาก"

แนวคิดนี้มาจากการทำงานของสมอง เพราะสมองไม่สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ได้ แต่สามารถเพิ่มการเชื่อมต่อกับเซลล์ข้างเคียงได้อย่างไม่จำกัด เมื่อได้รับการฝึกฝน และ มีการพัฒนาอยู่เสมอ
"ราคาสินค้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด หรือ อะไรทั้งสิ้น แต่มันขึ้นอยู่กับไอเดีย คุณจะให้ไอเดียของคุณมีราคาเท่าไหร่"
"ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของคุณควรมีราคาไม่แพงในตอนแรก สามารถทำงานพื้นฐานได้ครบถ้วน แล้วค่อยๆ พัฒนาให้มันมีความสามารถมากขึ้นเรื่อยๆ เฉกเช่นระดับน้ำในห้องที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนแตะ “เพดาน” "

ตัวอย่างในอดีตคือ ซันสร้างคอมพิวเตอร์เมนเฟรม และอินเทลก็กินตลาดของซัน, Microsoft Word กินตลาดซอฟต์แวร์จัดหน้าเอกสารอย่าง Interleaf และ Framemaker, กล้องดิจิทัลราคาถูกกำลังกินตลาดกล้องราคาแพงสำหรับมืออาชีพ, Avid กินตลาดระบบตัดต่อวิดีโอสำหรับมืออาชีพ และตอนนี้แอปเปิลก็กำลังกินตลาดของ Avid, เฮนรี ฟอร์ด ก็ทำแบบนี้กับผู้สร้างรถยนต์รุ่นก่อนหน้านั้น คุณจะเห็นว่าถ้าคุณสร้างซอฟต์แวร์ที่เรียบง่าย ราคาถูก คุณจะขายมันได้ง่าย และคุณยังจะอยู่ในสถานะที่ดีที่สุดในการครอบครองตลาดทั้งหมดด้วย
"แนวคิดพื้นฐานของสตาร์ตอัพคือทำเงินจากผลิตภัณฑ์ที่ทำงานได้ดีกว่าสิ่งที่มี อยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นตลาดที่เหมาะที่สุดคืออุตสาหกรรมที่ทุกอย่างแย่ไปหมด"
"ดังนั้นถ้าคุณพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเงิน คุณก็คงไม่พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้คนอย่างตัวคุณเองใช้เพียงแค่นั้นหรอก แต่คุณสามารถใช้ประเด็นนี้ตั้งคำถามว่า “คนทั่วไป (ที่ไม่ใช่คนอย่างคุณ) อยากได้อะไรจากผลิตภัณฑ์” และนี่จะกลายเป็นไอเดียสำหรับบริษัทของคุณได้"
"ผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียวที่คุณสามารถสร้างได้โดยไม่ต้องศึกษาผู้ใช้ นั่นคือผลิตภัณฑ์ชนิดที่คุณต้องเป็นผู้ใช้งานนั่นล่ะ"
"แผนการตั้งต้นของทุกคนต้องมีอะไรผิดสักอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำเป็นอันดับแรกสุดคือหาว่ามันผิดตรงไหน และวิธีการค้นหาว่าแผนการของเรามีอะไรพลาดก็คือลองทำตามแผนเพื่อดูว่าของ จริงๆ มันเป็นอย่างไรกันแน่"

เมื่อคุณมีแผนคุณจะต้องลองทำดู แผนต้นแบบของทุกคนมีข้อผิดพลาดเสมอ แต่เมื่อลองทำตามแผนนั้นดูแล้วก็จะรู้ว่ามันผิดพลาดที่ตรงไหน และจะรู้ว่าสามารถแก้ไขได้อย่างไรด้วย
"เรามีเพียงวิธีเดียวที่จะเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรกันแน่ คือการสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นต้นแบบมาให้ลูกค้าลองใช้ และปรับปรุงมันโดยอิงจากความเห็นของลูกค้า"
"ปัญหาที่แท้จริงของบริษัทสตาร์ตอัพเกือบทุกแห่งที่ล้มเหลว เกิดจากว่าลูกค้าไม่ต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นๆ"
"แก่นสำคัญของ "ธุรกิจ" คือการทำให้คนยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าของเรา ก็เท่านั้น"
"การเริ่มทำธุรกิจ ต้องมีทีมอย่างน้อง 2-3 คน และธุรกิจหน้าใหม่ต้องไม่โหวตเพื่อหามติ แต่ต้องทำงานโดยทุกคนเห็นร่วมกันอย่างเอกฉันท์เท่านั้น"

ไม่ควรมีทีมเริ่มต้นเกินห้าคน เพราะถ้ามีคนในทีมมาก ความคิดเห็นที่แตกต่างก็จะมีมากเท่านั้น 
" แม้ไอเดียดีๆจะเกิดรอบๆ มหาวิทยาลัย แต่ คนฉลาดไม่ได้สร้างไอเดียขึ้นมาจากสิ่งที่เรียนในห้องหรอก แต่มันเกิดจากการที่พวกเขาเจอไอเดียในที่ที่มันไม่ควรจะอยู่แค่ตรงนั้นต่างหาก"
"คนเก่งสามารถแก้ไขไอเดียห่วยๆ ได้ แต่ไอเดียดีๆ ไม่สามารถช่วยคนห่วยๆ ให้กลับมาประสบความสำเร็จได้"
"ความสำคัญของไอเดียคือการเป็น "จุดตั้งต้น" ให้เจ้าของไอเดียยึดเป็นหลักคิด และครุ่นคำนึงถึงมันตลอดเวลา"
"จงมองหาสิ่งที่ผู้ใช้ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว และหาวิธีปรับปรุงมันให้หลุดพ้นจากความห่วยแตกนี้สักที"

แนวคิดการทำ Start up : Paul Graham
"ความจริง คือสิ่งที่เราเห็น แต่ความจริงยิ่งกว่า คือสิ่งที่เราเข้าใจ และความจริงที่สุด คือสิ่งที่ยังแอบซ่อนอยู่"
"ปัญหาสำคัญต่างๆที่เรามี ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยระดับความคิดที่เราสร้างปัญหานั้นๆ ขึ้นมา"
-อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์-
"เพราะพ่ายแพ้พวกนาย ทำให้ฉันรู้ถึงความอ่อนหัดของตัวเองไงหล่ะ และวันนี้จะเอาคืนให้ทั้งต้นทั้งดอกเลยนะ"
"หนังสือเป็นเหมือนสวนแห่งเวทมนต์ ที่สามารถใส่ดอกไม้ทุกชนิดลงไปได้"
"การหมกมุ่น มันต่างจากการได้รับแรงกระตุ้นอยู่นะ"
"คนที่รู้จักถาม เขาจะโง่เพียงแค่ชั่ววินาที แต่คนที่ไม่รู้จักถาม เขาจะโง่ไปตลอดชีวิต"
"จงอย่าท้อใจกับการทดสอบ แต่จงดีใจที่ได้มีโอกาสได้ทดสอบความสามารถของตนเอง และขอให้เชื่อในจินตนาการของตนเองเสมอ "
"เมื่อนายตัดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ออกไป เรื่องที่เหลืออยู่ก็จะเป็นเรื่องจริง แม้ว่ามันจะไม่น่าเชื่อก็ตาม"
"ความเชื่อจะเติบโต ก็ต่อเมื่อเราฝึกใช้มันในสถานะการณ์ที่เป็นไปไม่ได้"
"ดวงดาวที่มองไม่เห็นไม่ใช่ว่าไม่มี แต่โอกาสตอนนี้ยังไม่เอื้อที่จะทำให้มองเห็น"
"สิ่งที่น่าอายที่สุด คือ การเห็นคนอื่นกำลังทำในสิ่งที่คุณเคยบอกว่าคุณทำไม่ได้"
"อิสระ จะได้มา เมื่อเชื่อในความสามารถ และมีความรับผิดชอบ"
"ทุกการกระทำที่คุณทำในวันนี้ มันจะส่งผลต่อคนในรุ่นหลังๆ"
เหมือนกับโครโมโซมของเราคอยคัดเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดไว้  เราเป็นเราในทุกวันนี้ก็เพราะบรรพบุรุษของเราทำบางอย่างในกิจวัตรของเขา แล้วธรรมชาติก็เลือกเอาสิ่งที่เหมาะสมไว้ ดังนั้นถ้าคุณอยากให้สิ่งใดปรากฎอยู่ในรุ่นลูกหลานของคุณ คุณก็ควรพัฒนายีนนั้นให้เด่นขึ้นมา จนเข้าตาธรรมชาติ และถูกคัดเลือกเก็บเอาไว้
"ถ้าวันพรุ่งนี้จะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว ยังจะมาทำสิ่งที่ไร้สาระอยู่อีกหรือ ทำไมไม่ไปทำในสิ่งที่อยากจะทำ หรือ ที่ต้องทำ"
"ธรรมชาติ ไม่ได้คัดเลือกเอาสิ่งที่แข็งแรงที่สุด หรือ ฉลาดที่สุด แต่ธรรมชาติเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ให้มีอยู่ต่อไป"
การเลือก หรือ ตัดสินใจอะไรก็ตาม ก้ควรที่จะเลือกเอาสิ่งที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุด หรือ ไม่ต้องดีที่สุดก็ได้
"ถ้ามนุษย์ไปถึงดวงจันทร์ได้ แล้วทำไมเราจะแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าเราให้สำเร็จไม่ได้หล่ะ"
"จงใช้ความคิดทั้งที่มีโอกาส และไม่มีโอกาส"
"นอกจากคุณจะทำตัวเป็นผู้เข้าสอบที่ดีแล้ว คุณควรทำตัวเป็นผู้ออกข้อสอบที่ดีด้วย"
การสอบนั้นมองได้สามด้าน
1. เป็นคนเข้าสอบ ---> ต้องเตรียมตัวให้พร้อม
2. เป็นคนออกข้อสอบ--->ต้องออกข้อสอบที่วัดผลได้จริง นำไปใช้ประโยชน์ได้
3. เป็นข้อสอบ--->ต้องสามารถตอบได้ชัดเจน ไม่กำกวม

ก่อนสอบลองเอาตัวเองไปเป็นทั้งสามจุดนั้นดู แล้วข้อสอบมันจะไม่สามารถซ่อนอะไรไว้ได้เลย
"มันเป็นเรื่องเศร้านะ ถ้าคุณคิดว่าการศึกษาเป็นแค่หน้าที่ เพราะที่จริงแล้วมันเป็นชีวิตของคุณต่างหาก"
"ถ้าคุณเริ่มที่จะเจรจากับความเกลียดคร้าน คุณจะไม่มีทางสลัดมันพ้นได้เลย"
"ทุกบทเรียนที่เราเจอ จะสอนและบอกไบ้ถึงบทเรียนต่อไปเสมอ"
"จงให้จิตใจอยู่เหนือร่างกาย แล้วนายจะทำได้ทุกอย่าง"
ถ้าคิดว่ามันทำได้ สร้างภาพแห่งความสำเร็จให้เกิดขึ้นในจิตใจ มันก็มีความเป็นไปได้เกิดครึ่งแล้ว
"ศิลปินที่แท้จริงชอบเลียนแบบ แต่ศิลปินเอกชอบที่จะขโมยมากกว่า"
ศิลปิน=นักวิทยาศาสตร์=อัจฉริยะ
"นักวิทยาศาสตร์ก็เหมือนศิลปิน ที่คอยสร้างสรรค์สิ่งที่เปลี่ยนอริยธรรมของมนุษย์ จากจินตนาการของพวกเขา" Steve jobs
"ถ้าหากว่าคุณมีสักพันล้านความคิดดีๆ แต่ไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้ มันก็จะไม่สามารถพัฒนาไปไหนต่อได้เช่นกัน"
"สิ่งที่ดีที่สุดในการคาดเดาอนาคต คือ การสร้างมันขึ้นมา"
"การที่เราผิดพลาดบ่อยๆ มันไม่ได้ทำให้เราหมดหนทาง แต่มันกลับทำให้เราเห็นหนทางที่ดีกว่า และไม่หลงเดินไปในทางที่ผิดพลาดนั้น"
"แหล่งพลังงานที่ยิ่งใหญ่ และไม่มีวันหมดสิ้นคือความมุ่งมั่นกับความกล้า และมันมีอยู่ในที่ที่ไร้ซึ่งความกลัว" Green lantern
"การเรียนก็เหมือนการพายเรือทวนน้ำ ถ้าหยุดเมื่อไรมันก็ลอยถอยหลังเมื่อนั้น"
"ความตายเป็นเหมือนเครื่องมือของชีวิต มันทำให้เราละทิ้งสิ่งที่เกะกะรอบตัว แล้วเลือกตัดสินใจในสิ่งที่หัวใจอยากทำ"
ถ้าคุณคิดอะไรไม่ออกลองคิดว่าอีกไม่กี่นาทีคุณจะตายดูสิ แล้วร่ายกายมันจะรู้เองว่าต้องทำอะไร
"อยู่อย่างกระหายความรู้ และเรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบข้างเสมอ" Steve Jobs
"ก่อนที่จะทำอะไรให้เสร็จ ลองหยุดทำ แล้วนั่งคิดดูสิว่า จะสามารถเอาอะไรไปเสริมงานชิ้นนั้นให้ดีขึ้นได้บ้าง" Plus1 Thinking
จงให้มากกว่าที่พวกเขาขอ
คือ ถ้าพวกเขากล้าที่จะขอลดราคาจงให้พวกเขาฟรี แล้วถ้ามาวันหลัง ค่อยจัดหนักๆ
เป้าหมายกูอยู่สูงเสียดฟ้า ไม่มีเวลาที่จะมา "เดี๋ยว"อีกแล้ว
การนำเสนอเป็นการนำเอาสิ่งที่เราคิด(หรือที่เราปรึกษากันในกลุ่ม)มาทำให้คนอื่นเข้าใจด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าเจอปัญหาต้องหาสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานั้น เพราะจะทำให้เรารู้ว่าจะต้องแก้ปัญหายังไง
สำหรับวิทยาศาสตร์ การทดลองเป็นสิ่งจำเป็น และถ้ายิ่งใช้การคำนวณมาอธิบายก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก เพราะบางทีวิทยาศาสตร์ไม่อาจใช้ดวงช่วยได้ตลอด
ถ้านายยอมแพ้ต่อคำสัญญาของตัวเอง หนึ่งครั้ง มันจะเอาจากนายอีกเป็นร้อยครั้ง เพราะฉะนั้นจงอย่ายอมแพ้ตัวเอง
"ถ้าไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมีโทษอย่างไร ย่อมไม่สามารถหาประโยชน์ของมันได้"
เรื่องไหนที่มันยากจนทำไม่ได้ ก็ควรจะแยกมันออกเป็นส่วนๆจนรู้สึกว่าสามารถทำได้แล้วจึงค่อยๆทำไปทีละส่วน
ความรู้ใหม่ถ้าอยากให้จำได้ก้ต้องเอามาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว --> อ. ขวัญใจ (inspiration)
จะทำอะไร ทุกอย่าง จะต้องมีแผนตั้งแต่ต้นจนจบ และควรทำให้เกิดเป็นนิสัย
คนอื่นๆจะสนับสนุนเราเมื่อเรามีความเชี่ยวชาญ
คนพวกนี้มีความเชียวชาญ และผมเชื่อพวกเขาหมดหัวใจ!...ใช้พูดเมื่อต้องการจะสนับสนุนใคร
บางที่เราก็สู้กับธรรมชาติไม่ได้ จึงควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน
เมื่อถึงวันสุดท้ายเราจะยังยึดอุดมการณ์ หรือ จะทิ้งมัน
วิธีการแก้ปัญหามันไม่ควรเสียงจนเกินไป ควรอิงมาตรฐานจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ที่เราควรทำคือเรียนรู้ธรรมชาติ เพราะมันจะทำให้เราเอาตัวรอดได้
ความเรียบง่ายที่มากเกินไป บางที่ก็เป็นภัย
เราจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ เราควรจะทำตัวให้ชินกับการถูกคัดค้าน
ถ้าสถานการณ์นั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว มันจะเป็นมาตรฐานให้เราได้เรียนรู้
เพราะไม่มีอะไรบอกได้ว่าเขาถูก หรือนายผิด เพราะไม่เคยมีใครอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน จึงควรลองเสียงตามจินตนาการดูสักครั้ง
ความผิดพลาดนั้นเป็นบทเรียนที่มีค่าในชีวิต แต่มันก็สามารถเป็นจุดด่างได้เช่นกันถ้าเรามองข้ามความผิดพลาดนั้นไป
ขั้นตอนง่ายของการก้าวไปสู้ความสำเร็จ คือ อย่านอนจนกว่าภารกิจทุกอย่างในวันนั้นจะเรีบยร้อย
ธรรมชาติ คือสิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด ถ้านายอยากทำอะไรให้สมบูรณ์ก็ควรจะทำให้เป็นธรรมชาติ (ธรรมชาติในที่นี้ เป็นทั้ง noun,verb,adverb,adj.)
ถ้าได้ขึ้นชื่อว่าตั้งใจแล้ว ก็ควรทิ้งสิ่งที่กังวลอยู่ไปให้หมด
มันไม่จำเป็นหรอกว่านายจะสอบได้คะแนนเท่าไหร่ แค่อยากรู้ว่านายจะตั้งใจอ่านหนังสือได้มากแค่ไหนต่างหาก
ทุกคำถามที่จะถามคนอื่น ควรที่จะมีคำตอบของตัวเองไว้ด้วยเสมอ
ก่อนสอบควรจะเตรียมตัว จนสามารถพูดได้ว่า "ก่อนที่จะมาทำการสอบ ฉันก็เตรียมตัวมาดีแล้วหล่ะน๊า!"
เมื่อจินตนาการถึงภาพแห่งความสำเร็จจนนั่งไม่ติดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นหล่ะที่มันจะเริ่มเป็นจริง
ทุกปัญหาคือโอกาสในการที่จะได้เพิ่มพูนประสบการณ์ ควรจะชื่นชนยินดีกับปัญหานั้น ไม่ใช่ท้อถอย
"เอาหล่ะมีงานต้องทำอีกเยอะเลย!" คำง่ายๆที่กระตุ้นจิตใจได้ดีทีเดียว (แล้วจินตนาการภาพที่กำลังทำงานอย่างไม่สนใจอะไร ขณะที่พูดประโยคนี้)
คำถามที่ควรถามตัวเองเมื่อรุ้สึกเบื่อการเรียน คือ "นายมาเป็นนักศึกษาทำไม/เพื่ออะไร"
ต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ เพราะเวลามันไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก
ควรสร้างกระแสให้กับสิ่งที่นายทำอยู่ ให้มันสนุกสนานจะได้มีกำลังใจทำต่อไป
คนที่คิดว่าตัวเองรู้หมดแล้ว เขากำลังหลังทาง เพราะความจริงแล้วความรู้ไม่มีวันหมด
ถ้าอยากจะเข้าใจอะไรก็ตาม ให้จินตนาการเอาตัวเองเข้าไปแทนสิ่งนั้น เพราะถ้าคุณเข้าใจตัวเองขณะที่เป็นสิ่งนั้น คุณก็จะเข้าใจทุกสิ่ง
บุคคลที่เป็นฐานให้นายจะต้องลำบากต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่นายไม่คิดหรือไม่ตั้งที่จะยืนอยู่ข้างบนให้ได้ (ฐาน หมายถึงทุกคนที่ต้องเสียสระเพื่อให้เรามายืนอยู่ ณ จุดนี้)
เวลาที่มีในแต่ละวันควรใช้ไปเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง ไม่ใช่มีไว้เพื่อทำสิ่งที่ไร้สาระ
คนที่เก่งที่สุดก็สมควรที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดเสมอ (The prince of tennis)
จงอย่าอภัยให้กับความผิดพลาด เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะความจริงแล้ว ความถูกต้องต่างหากที่ควรเป็นเรื่องปกติ
เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จงโทษตัวเองก่อนโทษคนอื่นเสมอ และมองหาว่านายทำอะไรผิดพลาดที่ตรงไหน
ไม่มีอะไรที่เป็นความจริงหรอก จงปลดปล่อยตัวเองไปตามจินตนาการ เพราะความจริงมีนขึ้นอยู่ที่ว่านายจะเชื่อจินตนาการนั้นรึป่าวต่างหาก
การจะเข้าใจอะไรสักอย่างต้องเข้าใจอย่างเป็นเหตุเป็นผลไม่ใช่การท่องจำ (หมอพิชญ์)
ปัญหาถ้าว่าจะแก้กันจริงก็ ก็ต้องลงมือทำจริงๆ และต้องเจอกับปัญหานั้นด้วยตัวเอง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจะทำให้นายมีประสบการณ์ และประสบการณ์จะทำให้นายมีทักษะ และทักษะจะทำให้นายทำอะไรได้ง่ายขึ้น และการที่นายทำอะไรได้ง่ายขึ้น ทำให้นายทำอะไรได้มากขึ้นด้วย และการที่นายทำอะไรได้มากขึ้นก็จะทำให้นายสามารถทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย
ขณะอ่านหนังสือ ควรถามตัวเองว่า เหตุการณ์อะไรที่ทำให้ผู้เขียนเกิดประสบการณ์แบบนี้ และทำไมถึงคิดแบบนี้ หรือ ทำไมเขาถึงบอกแบบนี้
การเรียนรู้จากหนังสือเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นควรหาโอกาสที่จะได้พบกับประสบการณ์นั้นด้วยตัวเองบ้างสักครั้ง (ควรลงมือทำเองบ้าง ไม่ใช่อ่านแต่ตำรา)
สิ่งที่ควรถามตัวเองหลังจากเรียนรู้สิ่งใหม่คือ "มีอะไรที่ยังไม่รู้อีก"
ยิ่งนายภาวนาเพื่อตัวเองมากเท่าไร นายยิ่งอันตรายมากเท่านั้น
จงอย่าวิ่งหนีจากสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่
หากท่านจะกำจัดความโง่เขลาภายนอก ท่านควรกำจัดความโง่เขลาภายในตัวท่านซะก่อน
วิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือลงมือทำ และไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว
เพราะไม่เป็นฝ่ายรอรับตลอด แต่ลงมือทำเองจึงรู้เอง (The social Network)
ขอแค่คุณรักที่จะทำมัน แล้วมันจะรักคุณกลับ ไม่ว่าอะไรก้ตาม
***เราจะไม่ขออะไรจากพระเจ้า นอกจากให้ท่านมองดูเราคอยแนะนำ และตักเตือนเราเมื่อเราขาดวินัยต่อเป้าหมายของเรา ...หรือแค่ทำอย่างที่พระองค์เคยทำ
แม้ว่านายจะเก่งแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์ถ้านายเลือกทางที่ผิด ที่สำคัญคือ วินัย นายต้องมีวินัยต่อเป้าหมายที่ตั้งไว้
คำถามที่ควรถามตัวเองเสมอเมื่อเจอสิ่งใหม่ๆ คือ "นายเห็นอะไร และนายไม่ได้เห็นอะไร" (ไม่ได้เห็น หมายถึง ไม่เห็นในสิ่งที่นายคิดว่าจะเห็น)
ความกล้าที่ควรจะมีติดตัวมีอยู่สองอย่าง คือ กล้าที่จะหวัง และกล้าที่จะทำตามความฝัน
การจะพัฒนาศักยภาพของคน ต้องดูก่อนว่าตอนนั้นเขาต้องการปัจจัยอะไรในการจะทำให้ตัวเองพร้อม ต่อรูปแบบการพัฒนา (นโยบายเรียนฟรีจะไม่ได้ผลตราบใดที่ปากท้องยังไม่อิ่ม)
การทำงาน/การแก้ปัญหา ทุกอย่าง ต้องเตรียมระบบให้พร้อม เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนให้ได้มากที่สุด
เราตั้งใจศึกษาหาความรู้ไม่ได้ทำเพราะอยากให้ตัวเองเก่ง แต่ศึกษาเพื่อที่จะได้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเรา ว่าทำไมถึงได้เป็นเช่นนั้น
ถนนไม่ได้สร้างเป็นเส้นตรงตลอดเวลา แต่มีทางโค้งมีทางแยกอยู่เสมอ ความคิดของคนเราก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องคิดตรงๆเสมอไป ควรจะคิดให้มันแยกแตกต่างจากที่เคยเป็นอยู่บ้าง
มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว สบายแบบนี้เรียนอะไรก็จบ (Dad)
ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ขอแค่รู้ทั้งหมด อย่างละเอียด และจงระลึกไว้เสมอว่าทุกสิ่งไม่ได้เกิดมาเพื่อทำหน้าที่เพียงอย่างเดียว
เมื่อเทียบกับพวกเขานายเหมือนกำลังคลานอยู่ หนังสือจะทำให้นายลุกขึ้นเดิน จนกระทั่งนายวิ่งได้ ส่วนสิ่งที่จะทำให้นายวิ่งได้เร็วขึ้น และบินข้ำฟ้า นายจะเห็นมันในอนาคต
นายอยากให้ตัวนายในอนาคตเป็นยังไง นายก็ควรทำตามที่นายเข้าใจ เพราะเมื่อหันมามองอีกครั้งจะได้ไม่ต้องโทษตัวเองหรือโทษใครๆ
กระหายความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ และใช้ความรู้เก่าให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
จะรู้มากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำอะไร
ทุกอย่างมี trick ของมัน ขอแค่นายหาให้เจอ แล้วทุกอย่างจะเป็นเรื่องง่ายๆ
นายมาเพื่อเป็นผู้แสวงหา ไม่มีใครขอร้องให้นายมา จงจำไว้!
บางอย่างเรียนรู้เองมันใช่้เวลานานเกินไปอาศับประสบการณ์ของพวกเขาดีกว่า (หมายถึงให้ตั้งใจเรียน แม้ว่าจะสามารถหาความรู้เองได้ แต่การตั้งใจเรียนง่ายกว่าเยอะ)
นายมาที่นี้เพื่อเตรียมตัวก้าวสู่เป้าหมาย (ที่นี้หมายถึงที่ ณ เวลานั้น)
จุดที่นายกำลังยืนอยู่ในตอนนี้นายเป็นคนเลือกเอง ทุกคนกำลังจับตามองนายอยู่ เพราฉะนั้นอย่าพลาด

test

Test
 
 
Copyright © Words With Me
photography premium wordpress themes | free wp theme by Blog Templates